วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556




HERA – ฮีรา (กรีก) หรือ จูโน (โรมัน)   เทพีที่คุ้มครองสตรีและการวิวาห์





        ฮีรา เป็นธิดาองค์ใหญ่ของเทพไททันโครนัส กับเทพมารดารีอา  เป็นชายาและ พี่สาว ของซุส พระนางเป็นเทพีแห่งหญิงสาวและชีวิตสมรส เป็นผู้ปกป้องสตรีที่แต่งงานแล้ว พระนางทรงประทับบนพระบัลลังก์ทองคำ เคียงข้างซุสบนภูเขาโอลิมปัส และทรงพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ใส่พระทัยกับเรื่องราวรักๆ ใคร่ๆ ที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรมของสวามี เทพีฮีราได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเทพธิดาผู้มีพระกรใสกระจ่างดุจงาช้าง ในตำนานโบราณ สัตว์ประจำองค์ของเทพีฮีรา คือ วัว แต่ในตำนานยุคใหม่ นกยูง  เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำพระองค์ และจะตามเสด็จอยู่ไม่ห่าง ส่วนพฤกษาประจำตัวของเทพีฮีรา คือ ผลทับทิม
          เทพีฮีรา เป็นที่รู้จักกันดีในด้านของอารมณ์ดุร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชายาองค์อื่นๆของซุส และบุตรที่เกิดจากชายาเหล่านั้น ไม่ว่าพวกนางจะเป็นเทพีหรือเป็นมนุษย์ก็ตาม ตัวอย่างของผู้ที่ถูกเทพีฮีราปองร้ายมีมากมาย เช่น เทพีลีโต มารดาของเทพอพอลโล และเทพีอาร์เทมิส  เฮอร์คิวลิส ไอโอ ลามิอา เกรานา ซิมิลี มารดาของเทพไดโอนีซุส ยูโรปา เป็นต้น ก็จะเจอจุดจบแบบไม่สวยงาม
            และเรื่องราวที่เทพีฮีรา ได้เป็นพระชายาของซุสนั้น โดยตำนานได้กล่าวว่า เมื่อเหล่าเทพโอลิมเปียนได้เอาชนะโครนัส และย้ายขึ้นมาสร้างวิมานบนเทือกเขาโอลิมปัสแล้ว ซุสก็ได้เสาะหาหญิงงามผู้คู่ควรกับตำแหน่งราชินีแห่งเทพทั้งมวล และในที่สุดพระองค์ก็ตัดสินใจเลือกเทพีฮีรา ซึ่งเป็นพีสาวของตนเอง  แต่เทพีฮีราไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ เพราะขยาดในความเจ้าชู้ของซุสนั่นเอง  และขังตนเองอยู่ในวิหาร เพื่อหนีจากการสมรสกับมหาเทพแห่งโอลิมปัส ซุสจึงปลอมตัวเป็นนกเขาบาดเจ็บบินเข้าไปซบตรงอกของฮีรา และแน่นอนว่าเทพีผู้อ่อนหวานจะต้องนำนกตัวนั้นเข้าไปพยาบาลในวิหารแน่นอน เมื่อทั้งคู่เข้าไปในวิหารของฮีราแล้ว ซุสก็กลับร่างเป็นมหาเทพ และรวบรัดฮีราเป็นราชินีของพระองค์
            และชาวกรีกโบราณ เชื่อกันว่า ชีวิตการครองคู่ของเทวีฮีรากับเทพซุสไม่ค่อยราบรื่นเท่าใดนัก มักจะทะเละเบาะแว้ง เป็นปากเสียงกันตลอดเวลา และในเวลาที่เกิดฟ้าคะนองดุเดือดขึ้นเมื่อไร นั่นคือสัญญาณว่าซุสกับฮีราต้องทะเลาะกันเป็นแน่ เพราะ 2 เทพนี้เป็นสัญลักษณ์ของสรวงสวรรค์ เมื่อท้องฟ้าเกิดอาเพศ ก็เหมาเอาว่าเป็นเพราะการขัดแย้งรุนแรงของเทพคู่นี้
            เทพีเฮรามีโอรสธิดากับเทพซุส 4 องค์ นามว่า เฮบี  อิลลิธธียา   เอเรส  และฮีฟีสทัส  

 
 
 
 
 
 
 
 
 
NEPTUNE – โพไซดอน (กรีก)  เนปจูน (โรมัน) เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร
 
 
เป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งท้องน้ำ ตั้งแต่แหล่งน้ำจืด เช่น แม่น้ำ ลำคลอง จนถึงใต้บาดาล แต่ปกครองเฉพาะทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีตรีศูลเป็นอาวุธ บางตำนานกล่าวว่ามีท่อนล่างเป็นปลา นอกจากนี้แล้วยังถือว่าเป็นเทพแห่งแผ่นดินไหว และเป็นเทพแห่งม้าด้วย
 โพเซดอนเป็นบุตรของโครนัสกับรีอา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาอีก 5 องค์ ซึ่งล้วนแต่เป็นเทพแห่งโอลิมเปียนทั้งสิ้น ได้แก่
          1.เฮสเทีย เทพีแห่งเตาผิง ผู้ดูแลครัวเรือน
          2.ดีมิเตอร์ เทพีแห่งธัญพืชและการเกษตร
          3.ฮีรา ชายาแห่งเทพซุส เทพีผู้คุ้มครองสตรีและการสมรส
          4.ฮาเดส ผู้ครอบครองยมโลก
          5.ซุส ผู้เป็นใหญ่ในสภาเทพแห่งโอลิมปัส
            รูปลักษณ์ของโพเซดอนที่ปรากฏ เป็นชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำล่ำสัน มีหนวดเครา ถือ สามง่ามเป็นอาวุธ ซึ่งสามง่ามนี้มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถดลบันดาลให้เกิดทะเลคลั่งหรือแผ่นดินไหวได้ ครั้งหนึ่งโพเซดอนเคยคิดที่จะโค่นอำนาจของซุส โดยร่วมมือกับฮีราและอธีนา แต่ไม่สำเร็จ จึงถูกซุสลงโทษ โดยการให้ไปสร้างกำแพงเมืองทรอยร่วมกับอพอลโล                                    
โพเซดอนมีพระชายาองค์หนึ่งคือ แอมฟิไทรท์ ซึ่งเป็นพรายน้ำ หรือบุตรสาวของ นีริอัสและดอริส โพไซดอนเห็นนางเต้นรำร่วมกับเหล่าพรายน้ำอื่นๆ จึงลักพาตัวนางไปเป็นชายาในดินแดนใต้สมุทร  ชายาอีกองค์หนึ่งของโพไซดอนเป็นหญิงรับใช้ของอธีนา คือ เมดูซ่า ก่อนที่จะถูกสาปให้มีผมเป็นงู เพราะหลงใหลในความงามของเมดูซ่า เมื่ออธีนาทราบเรื่องจึงสาปเมดูซ่า ให้เป็นปีศาจที่มีผมเป็นงู และเมื่อมองใครก็จะกลายเป็นหินไปหมด เมื่อเพอร์ซีอุส ตัดศีรษะของเมดูซ่าแล้ว เลือดของเมดูซ่าที่กระเซ็นออกมา กลายเป็นม้าบินสองตัว คือ เพกาซัส และ คริสซาออร์  จึงถือว่า ทั้งเพกาซัสและคริสซาออริ เป็นลูกของโพเซดอนด้วย
            พาหนะของ โพเซดอน เป็นม้าน้ำเทียมรถ ที่มีส่วนบนเป็นม้าและท่อนล่างเป็นปลา ซึ่งบางครั้งจะพบรูปโพเซดอนอยู่บนรถเทียมม้าน้ำนี้ขึ้นมาจากทะเล
            วิหารที่สร้างเพื่อบูชาเทพโพไซดอน อยู่ที่แหลมสุนิอ้อน ห่างจากกรุงเอเธนส์ ไม่มากนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น